อนิเมะแนวแอคชั่น CARDFIGHT!! VANGUARD will+Dress (Season 2) เป็นอนิเมะซีรี่ย์ที่เป็นภาคต่อของเรื่อง “Cardfight!! Vanguard overDress” ซึ่งออกอากาศจบลงไปเรียบร้อยแล้วเมื่อปี 2021 เรื่องนี้สร้างพล็อตและเนื้อหาเรื่องราวมาทั้งหมด 12 ตอน ที่ได้ “CLAMP” เป็นผู้ที่วาดภาพและออกแบบตัวละครให้เช่นเคย โดยเนื้อหาของอนิเมะภาคต่อ will+Dress ก็จะมีเนื้อหาเรื่องราวที่เชื่อมโยงกับเหล่านักสู้ที่มีด้วยกันทั้งหมด 16 คน จากนักสู้ที่มาจากทั่วโลกได้เดินทางมาเพื่อทำการประลองการแข่งขันการ์ดกันครั้งนี้ภายใต้โปรเจ็กต์ที่ชื่อว่า “Deluxe Tournament” สำหรับอนิเมะเรื่องนี้ได้ผู้กำกับคนใหม่อย่าง “Ryutarō Suzuki” ที่มารับช่วงสร้างต่อจาก “เคน โมริ” โดยเขาก็ได้สลับเปลี่ยนมาทำหน้าที่เป็นผู้เขียนบทให้กับอนิเมะซีรี่ย์เรื่องนี้ โดยได้นักแสดงนำหลักที่มาทำหน้าที่ถ่ายทอดเป็นผู้พากย์เสียงที่ประกอบไปด้วย "คนโด, ยู-ยู" (พากย์โดย อาโออิ, โชตะ) "โมโมยามะ, ดันจิ" (พากย์โดย โอโนะ, ยูกิ) และนักแสดงสนับสนุนอย่าง "อากาอิ, เรโน" (พากย์โดย รินุ) “เบลล์, โซฟี” (พากย์โดย มิโมริ, ซูซูโกะ) “เอบาตะ, โทยะ” (พากย์โดย อุจิดะ, ยูมะ) "เฟรดสัน, ซามูเอล" (พากย์โดย มาเอดะ, เซอิจิ ) เป็นต้น “Cardfight!! Vanguard” เป็นอนิเมะที่เกี่ยวข้องกับการ์ดเกมยอดฮิตภายใต้การผลิตของ Bushiroad โดยสุดท้ายได้ถูกดัดแปลงกลายมาเป็นอนิเมะทางทีวีภาคใหม่โดยทีมงาน Kinema Citrus สตูดิโอ เป็นผู้ผลิตรายการและเผยอพร่ให้กับแฟนๆคออนิเมะแนวแอคชั่นกับเรื่อง “CARDFIGHT!! VANGUARD will+Dress” (Season 2) ได้รับชมความมันส์และได้มีการเผยออกมาแล้วว่าจะมีการทำอนิเมะซีรี่ย์ดีเรื่องนี้ออกมาให้ได้ดูกันแบบยาวๆถึงซีซั่นที่ 9 กันเลยทีเดียว
เรื่องย่อ: CARDFIGHT!! VANGUARD will+Dress Season 2
เรื่องราวเกิดขึ้นหลังจากที่ได้รับชัยชนะจากการแข่งขันของเหล่านักสู้ในรายการ “Deluxe Tournament” ของญี่ปุ่น ซึ่งมี ยูยู่ ,ไรก้า และ โทย่า เป็นผู้ที่ได้รับคัดเลือกเชิญให้ไปยังประเทศสหรัฐ โดยที่พวกเขาทั้งสามคนจะมีการเดินทางไปทั่วประเทศเพื่อเข้ารับชมการแข่งขันนิทรรศการที่ถูกจัดขึ้นในสหรัฐอเมริกา ซึ่งคู่ต่อสู้ของพวกเขาต่างล้วนเป็นนักสู้ที่เคยเป็นผู้ได้รับชัยชนะสู่เส้นชัยของการแข่งขันในรายการ “ดีลักซ์ ยูเอสเอ” มาแล้วทั้งนั้น โดยผู้เล่นชาวญี่ปุ่นทั้งสามคนรวมไปถึง “ยูยู่” ก็ยังเป็นผู้ที่อยู่ในการแข่งขันของการต่อสู้ที่ท้าทายและดุเดือดครั้งนี้ด้วย ซึ่งในขณะเดียวกันนั้น “ดันจิ” ก็ได้เดินทางล่วงหน้าไปยังสหรัฐก่อนแล้ว เพื่อทำการตรวจสอบเบื้องลึกเบื้องหลังของการแข่งขันสุดยิ่งใหญ่ในรายการ ดีลักซ์ ครั้งนี้ ตามคำบอกเล่าของ “มิจิรุ” ซึ่งเขากำลังมีความสงสัยไปถึงการเชื่อมโยงของเหล่านักสู้ที่มีการหายตัวไปทีละคน
